บทความนี้ขอเกาะกระแสกับดราม่า ไข่ต้มครึ่งใบ ที่กำลังมาแรง กลายเป็นไวรัลและมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม เลื่อนไปช่องทางไหนก็ต้องเจอประเด็นนี้เต็มฟีดไปหมด วันนี้เราจะมาหาข้อมูลถึงคุณประโยชน์ของการทานไข่ต้มกันดีกว่าว่าในไข่ต้ม 1 ฟอง มีคุณค่าอาหารอะไรบ้าง หรือไม่ควรกินไข่ต้มกันแน่ 

คุณค่าโภชนาการของไข่ต้ม 1 ฟอง มีอะไรบ้าง 

ไข่ต้ม เมนูอาหารที่ทำได้ง่าย เพียงนำไข่ไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5-10 นาที จะได้ไข่ต้มที่มีคุณค่าอาหารมากมาย ทั้งโปรตีน ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ 

ไข่ต้ม 1 ฟองประกอบไปด้วย 

  • โปรตีน 6 กรัม 
  • ไขมันทั้งหมด 5 กรัม 
  • ไขมันอิ่มตัว 2 กรัม 
  • คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม 
  • น้ำตาล 1 กรัม 
  • แคลอรี่ 78 กิโลแคลอรี่ 
  • คอเลสเตอรอล 187 มิลลิกรัม 
  • โซเดียม 62 มิลลิกรัม 

คุณค่าทางโภชนาการของไข่ต้ม 

  • โปรตีน ไข่ต้มมีโปรตีนสูง โดยประโยชน์ของโปรตีน คือ จะให้พลังงานแก่ร่างกาย รักษามวลกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมในส่วนของเนื้อเยื่อที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างแอนตี้บอดีต่อสู้กับเชื้อโรค ป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายขาดโปรตีนหรือได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อการสลายตัวของเนื้อเยื่อ ทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้  
  • วิตามินเอ ไข่ต้มมีวิตามินเอสูง โดยวิตามินเอมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น และระบบการแบ่งเซลล์ในการเจริญเติบโต หากขาดวิตามินเอส่งผลให้เสี่ยงต่อโรคโลหิตจาง และ ภาวะตาแห้ง  
  • วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน ซึ่งมีหน้าที่ในการสลายไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย 
  • วิตามินบี 12 หรือ โคบาลามิน สารสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง และ พัฒนาเซลล์สมองและระบบประสาท และเมื่อทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินบี 12 ตัวโปรตีนจะช่วยให้ลำไส้เล็กดูดซึมวิตามินบี 12 ได้เต็มที่ ทำให้ลำไส้เล็กทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • วิตามินดี ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง หากร่างกายขาดวิตามินดี จะทำให้เกิดโรคกระดูกได้ เช่น กระดูกเปราะ โรคกระดูกพรุน หรือ โรคกระดูกอ่อนในเด็ก 
  • ไอโอดีน ไข่ต้มมีไอโอดีน แร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย มีผลต่อการทำงานของระบบไทรอยด์ โดยไอโอดีนมีส่วนสำคัญในการผลิตฮอร์โมนของไทรอยด์ ทั้งไทรอกซีน และ ไตรไอโอโดไธโรนีน ซึ่งมีผลต่อระบบการเผาผลาญอาหาร หากขาดไอโอดีน จะทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ต่ำ ปวดข้อ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และระบบสืบพันธุ์มีปัญหา 
  • โฟเลต แร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนในการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่สำคัญของสตรีมีครรภ์ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อกระดูกสันหลังบกพร่อง ดังนั้น สตรีมีครรภ์ไม่ควรขาดสารอาหารตัวนี้ โดยควรได้รับกรดโฟเลต 400 – 1,000 ไมโครกรัม / วัน  

ประโยชน์ของไข่ต้มมีอะไรบ้าง 

  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง โดยโปรตีนในไข่ต้ม จะช่วยกระตุ้นการทำงานให้กับสมองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการทานไข่ต้มในมื้อเช้า 
  • ป้องกันโรค โดย สารโคลีน จะช่วยป้องกันโรคตับ โรคอัลไซเมอร์ ภาวะซึมเศร้า  
  • กระดูกแข็งแรง ด้วยโปรตีนและวิตามินดีในไข่ต้ม จะทำงานร่วมกัน บำรุงกระดูก กระตุ้นการเจริญเติบโต และเสริมสร้างพัฒนาการ โดยเฉพาะในเด็ก สตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์ 
  • ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ด้วยลูทีนและซีแซนทีนในไข่ต้ม ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องการเสื่อมของจอประสาทตาจากอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องสุขภาพตา จอประสาทตาไม่เสื่อมก่อนวัย  
  • ช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากไข่ต้มมีโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ อิ่มท้องนาน ทำให้เป็นเมนูลดน้ำหนักยอดฮิตของผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมนำหนัก รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่จำกัดคอเลสเตอรอล ที่อาจต้องเลือกรับประทานไข่ขาว 

กินไข่ต้มทุกวันอันตรายไหม 

สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ การกินไข่ต้มวันละ 1 ฟองทุกวัน สามารถทำได้ แต่ถ้ากินไข่ต้มร่วมกับอาหารประเภทไขมันอื่น ๆ เช่น แฮม เบคอน ชีส ขนมปังขาว หรือ การปรุงไข่ด้วยน้ำมัน หรือ เนย ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง อาจทำให้ได้รับคอเลสเตอรอลสูง และเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคอื่น ๆ ตามมาได้ 

 

สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และผู้ที่ต้องควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ควรจำกัดในการรับประทานไข่ต้มไม่เกิน 3 ฟอง / สัปดาห์ หรือ เลือกรับประทานเฉพาะไข่ขาว เพราะในไข่แดงมี 1 ฟอง มีคอเลสเตอรอล ประมาณ 180 – 186 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณคอเลสเตอรอลที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัม ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดี และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อให้ทานอาหารได้อย่างเหมาะสม