“ช็อกโกแลต” ขนมและเครื่องดื่มสีเข้มรสหอมหวานสุดโปรดของทุกเพศทุกวัย แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้เรื่องของเจ้าขนมแสนอร่อยนี้มากไปกว่าเพียงแค่ของทานเล่น ถ้าอย่างนั้นเราไปรู้เรื่องของช็อกโกแลตกันเลย

  • ช็อคโกแลตเป็นผลผลิตมาจากต้นโกโก้ และต้นโกโก้เป็นไม้ไม่ผลัดใบขนาดเล็กในวงศ์ชบา เป็นพืชในเขตเมืองร้อนชื้นของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ จึงอาจกล่าวได้ว่า ช็อคโกแลตเป็นผัก 
  • ไวท์ช็อคโกแลต ไม่ใช่ช็อกโกแลตแท้ เพราะไวท์ช็อคฯทำมาจากโกโก้บัตเตอร์หรือเนยโกโก้ นมผงแท้ 100% น้ำตาลทรายละเอียด วานิลลา หรือเลซิตินจากเมล็ดถั่วเหลือง 
  • ช็อกโกแลตไม่มีวันหมดอายุ เพียงแต่การเก็บไว้นานคุณภาพจะไม่ดีเท่าเดิม และการเกิดฝ้าขาวๆไม่ใช่เชื้อรา แต่มันคือไขมันในช็อกโกแลต
  • ช็อคโกแลตไม่ใช่อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะช็อกโกแลต มีสารที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน(Theobromine) โดยสัตว์เลี้ยงต้องใช้ระยะเวลานานในการย่อยสลายและเผาผลาญสารตัวนี้ให้หมดไป และอาจก่อให้เกิดพิษในร่างกายของสัตว์เลี้ยง ซึ่งแตกต่างจากร่างกายมนุษย์ที่สามารถกำจัดออกไปได้อย่างรวดเร็ว 
  • การปลูกต้นโกโก้ต้องใช้ระยะเวลา 3 ปี กว่าที่ต้นเติบโตและออกฝักให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวเมล็ดโกโก้มาแปรรูปเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราชอบกินกัน 
  • เมล็ดโกโก้เคยถูกใช้แทนเงินสดเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าทำการค้าขายกันในสมัยอาณาจักรแอซเทกรุ่งเรือง 
  • ต้นโกโก้สามารถให้ฝักได้ตลอดทั้งปี แต่ให้ผลิตผลฝักเพียง 25 ปี ในขณะที่ต้นมีอายุขัยถึงเกือบ 200 ปี 
  • ในช็อกโกแลตมีสารคาเฟอีนเช่นเดียวกับกาแฟ แต่จะมีปริมาณที่น้อยกว่า 
  • ชาวแอซเทกและชาวเม็กซิโก นำเมล็ดโกโก้มาต้มดื่มเป็นยา ไม่ได้ไว้เป็นเครื่องดื่มทานอร่อยแบบในปัจจุบัน 
  • การคั่วเมล็ดโกโก้ เพราะเมล็ดโกโก้ดิบมีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายกับมนุษย์และโกโก้ดิบมีรสชาติที่แตกต่างจากหลังการคั่วที่นำมาทำเครื่องดื่มหรือใส่อาหาร เพราะฉะนั้น การคั่วนอกจากจะกำจัดเชื้อโรคที่อันตรายออกไปแล้วยังเป็นการควบคุมให้ได้รสชาติที่ต้องการด้วย 
  • ในทางวิทยศาสตร์กีฬามีรายงานว่าการดื่มนมช็อคโกแลตหลังออกกำลังกาย จะช่วยในการเติมคาร์โบไฮเดรตให้กล้ามเนื้อของตัวเราอีกด้วย 

ดาร์กช็อกโกแลต คืออะไร 

ดาร์กช็อกโกแลต ผลิตจากเมล็ดโกโก้เช่นเดียวกับช็อกโกแลตประเภทอื่นๆ แต่ต่างกันตรงที่มีสัดส่วนของปริมาณโกโก้สูงกว่า 

 

สารอาหารในดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตที่มีผงโกโก้ 7080% ปริมาณ 30 กรัม จะได้รับสรอาหารโดยประมาณ ดังนี้ 

  • พลังงาน 180 กรัม 
  • ไขมัน 12.78 กรัม
  • โปรตีน 2.34 กรัม 
  • คาร์โบไฮเดรต 13.8 กรัม
  • เส้นใยอาหาร 3.3 กรัม 
  • น้ำตาล 7.2 กรัม 
  • คาเฟอีน 0.02 มิลลิกรัม
  • น้ำ 0.42 กรัม
  • แร่ธาตุและวิตามินต่างๆ 

ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต 

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการเกิดโรคต่างได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด สารโพลีฟีนองช่วยเสริมให้หลอดเลือดแดงแข็งแรง ช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิด HDL ช่วยลดการอักเสบและการก่อตัวของลิ่มเลือดได้ 
  • ลดความดันโลหิต การทานดาร์กช็อกโกแลตสัปดาห์ละ 23 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว 
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ดาร์กช็อกโกแลตอุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดี ป้องกันโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง 
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ดาร์กช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ออกซิเจนและเลือดลำเลียงสู่สมองได้ดี 
  • ช่วยลดความเครียด จากการศึกษาพบว่า การทานดาร์กช็อกโกแลตปริมาณ 40  กรัม ทุกวันนาน 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ความเครียดลดลง 

 

ไขมันดีที่มีอยู่ในโกโก้และช็อกโกแลตที่ใครหลายคนอาจรู้จักดีนั่นก็คือโกโก้บัตเตอร์ ที่ให้ความมันนุ่มและยังมีประโยชน์อีกมากมาย 

 

โกโก้บัตเตอร์ คือ เนยที่ได้จากไขมันธรรมชาติของเมล็ดโกโก้ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เก็บกักความชุ่มชื้นและซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น นุ่ม ลื่น มีสุขภาพดี โดยเฉพาะผิวที่แห้ง บอบบาง และแพ้ง่าย ช่วยลดรอยแตกลายจากการตั้งครรภ์ จึงมักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเวชภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง 

โกโก้บัตเตอร์หรือเนยไขมัน มีรสชาติที่แปลกแต่มีกลิ่นหอม  เป็นไขมันดีต่อสุขภาพ เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ มีราคาสูง เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมอาหาร และยังใช้ในทางการแพทย์ รวมไปถึงด้านความงาม  ทำให้บัตเตอร์โกโก้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกและมีราคาสูง 

 

โกโก้บัทเทอร์ เป็นส่วนประกอบสำคัญของโกโก้ มีส่วนผสมของกรดไขมันเป็นหลัก ไขมันอิ่มตัว 5564% และไขมันไม่อิ่มตัว 4633% นอกจากนี้โกโก้บัตเตอร์ยังมี… 

  • วิตามิน A ,B, C และ E เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • มีแร่ธาตุมากมายเช่น เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ไอโอดีน สังกะสี ฯลฯ 
  • มีกรด Arachidonic ช่วยป้องกันแบคทีเรียและไวรัส
  • สาร theobromin ช่วยระบบการทำงานของระบบประสาท
  • ปริมาณแคลอรี 900 กิโลแคลอรีต่อ100กรัม 
  • กรดไลโนเลอิก ช่วยบำรุงผมและผิวหนัง 
  • ปาล์มมิติกและลอริค ให้ความชุ่มชื้นและเก็บกักรักษา
  • ช่วยเรื่องโรคเรื้อนกวางและเชื้อรา 
  • ขจัดรอยแตกลายหลังคลอดและรอยแตกใหม่ระหว่างให้นมบุตร
  • ช่วยสมานแผล
  • ช่วยระงับความอยากอาหาร ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก 
  • ลดระดับคอเลสเตอรอล 

ดังนั้นคนที่มีความชอบโกโก้จึงไม่ต้องคิดมากว่ากินโกโก้แล้วจะอ้วน เพราะโกโก้มีประโยชน์มากมายหากทานปริมาณที่เหมาะสม โดยทางการแพทย์แนะนำให้ดื่มโกโก้ที่ไม่ผสมอะไรเลยเหมือนการดื่มกาแฟดำก็จะได้ประโยชน์โกโก้เต็มที่ แต่ถ้าหากผสมนมหรือน้ำตาลดื่มประจำก็อาจสร้างโทษและโรคอ้วนให้แทน