ช่วงหน้าฝน ปัญหาเรื่องผ้าไม่แห้งเป็นกันแทบทุกบ้าน ตากในที่ร่มก็เหม็นอับ ยิ่งผ้าเนื้อหนา อย่างผ้าขนหนู ทั้งอับและเหม็นเปรี้ยวเลยก็มี เพราะผ้าไม่แห้งหรือแห้งไม่สนิท จึงทำให้มีกลิ่น แล้วไหนจะเชื้อราอีก คงไม่ดีแน่ถ้าจะนำผ้าขนหนูแฝงด้วยเชื้อโรคและเหม็นกลิ่นอับมาเช็ดหน้า เช็ดตัว เรามีวิธีขจัดกลิ่นผ้าเหม็นอับมาฝาก ต่อไปนี้จะกี่หน้าฝน ก็หมดปัญหาผ้าขนหนูมีกลิ่น

น้ำร้อน 

โดยปกติจะซักผ้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำเย็นทั่วไป แต่วิธีซักผ้าขนหนูให้หายเหม็นอับ ขจัดกลิ่นเหม็นเปรี้ยวออกจากผ้าขนหนู อาจต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนจะช่วยลดแบคทีเรีย เชื้อรา ฆ่าเชื้อโรค และสลายกลิ่นที่ติดสะสมบนเนื้อผ้าได้ดีกว่าน้ำเย็น 

บอแรกซ์

บอแรกซ์จะช่วยให้ผงซักฟอกมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่น และขจัดคราบเพียงเติมบอแรกซ์ ½ ถ้วย ลงในเครื่องซักผ้า ด้วยการซักแบบปกติ หรือนำบอแรกซ์ละลายกับน้ำร้อน จากนั้นนำผ้าลงไปแช่ทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ก่อนจะทำความสะอาดตามปกติ  

น้ำส้มสายชู 

น้ำส้มสายชูนอกจากจะใช้ทำความสะอาดบ้านขั้นเทพแล้ว ยังสามารถนำมาขจัดกลิ่นอับของผ้าขนหนู และผ้าอื่น ๆ ได้ด้วย โดยก่อนที่จะนำผ้าขนหนูลงไปซักเครื่อง ให้เทน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วย ลงตรงช่องสำหรับใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มของเครื่องซักผ้า น้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบฝังแน่นบนเนื้อผ้า ขจัดกลิ่น และเชื้อแบคทีเรีย ช่วยทำให้ผ้านุ่มยิ่งขึ้น แต่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูและสารฟอกขาวด้วยกัน จะทำให้เกิดสารอันตรายและแก

เบกกิ้งโซดา หรือผงฟู

เบกกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่าง ช่วยในเรื่องของการกำจัดกลิ่นได้ดี ทำให้มักถูกนำไปใช้ดับกลิ่นแทบทุกชนิด รวมไปถึงการนำมาใช้ขจัดกลิ่นอับของผ้าขนหนู ยิ่งไปกว่านั้น เบกกิ้งโซดาทำให้ผ้าขนหนูนุ่มฟูได้ดี เติมเบกกิ้งโซดาหรือผงฟู ½ ถ้วย ลงในเครื่องซักผ้า หรือในภาชานะที่ใช้ซักผ้า จากนั้นซักผ้าตามปกติ ก่อนจะนำไปตาก หากยิ่งตากโดนแดด จะยิ่งทำให้กลิ่นหายเกลี้ยง 

สารส้ม 

สารส้ม ขึ้นชื่อเรื่องการดับกลิ่นกายได้ดี แต่สามารถนำมาใช้ลดกลิ่นเหม็นอับชื้นของผ้าขนหนูได้เช่นกันนะ แต่จะเหมาะกับวิธีซักผ้าขนหนูด้วยมือ โดยนำสารส้มแกว่งในน้ำก่อนซักประมาณ 3 นาที แล้วทิ้งไว้สักประมาณ 10-15 นาที จากนั้นใส่ผงซักฟอกแล้วซักตามปกติก่อนนำไปตากแห้ง 

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

บางกรณีที่ผ้ามีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ก็อาจมาจากเครื่องซักผ้าได้เช่นกัน เนื่องจากเครื่องซักผ้าที่มีการใช้งานอยู่ประจำ อาจมีเชื้อราเกาะอยู่ตามขอบ หรือตามบริเวณต่าง ๆ ภายในตัวถัง จา่กน้ำ สารทำความสะอาด และคราบสกปรก ดังนั้นควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ หรืออย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาด