“กินมะเขือเทศ ผิวจะสวย แก้มแดงใส” ใครเคยได้ยินบ้างเอ่ย? สำหรับใครที่ชอบกินมะเขือเทศและกินเป็นประจำ ได้ผลดีต่อผิวหรือได้ผลดีต่อสุขภาพอย่างไร อยากให้มาร่วมแชร์ประโยชน์ที่ได้รับจากการกินน้ำมะเขือเทศจังเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็มีกระแสการกินน้ำมะเขือเทศให้ผิวขาว กินน้ำมะเขือเทศลดสิว ซึ่งไม่ได้นิยมในหมู่สาว ๆ เท่านั้น แต่ผู้ชายเองก็หันมากินน้ำมะเขือเทศกันมากขึ้น ทั้งแบบน้ำมะเขือเทศกล่อง น้ำมะเขือเทศสด หรือนำมะเขือเทศมาปรุงเป็นอาหาร
แต่การกินน้ำมะเขือเทศติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ จะอันตรายไหม หรือกินมะเขือเทศอย่างไรให้ได้ผล และดื่มน้ำมะเขือเทศตอนไหนได้ประโยชน์สูงสุด วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าจะช่วยเฉลยข้อสงสัยให้เพื่อน ๆ ไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
กินน้ำมะเขือเทศขาวจริงไหม
หลายคนที่เริ่มหันมาดื่มน้ำมะเขือเทศมากขึ้น เพราะกระแสกินน้ำมะเขือเทศผิวขาว เนียนใส ที่จริงแล้วเราทุกคนจะมีเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง หากมีจำนวนเม็ดสีเมลานินมาก ผิวก็จะค่อนข้างเข้ม ในขณะที่ผิวขาว คือ เม็ดสีเมลานินนั้นจะน้อยกว่า ดังนั้นหากผู้ที่มีสีผิวเข้มแล้วต้องการจะมีผิวขาวขึ้น จะต้องลดเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง ซึ่งในน้ำมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยไลโคปีน และ เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นมีส่วนในการช่วยปกป้องคอลลาเจนให้ผิวหนัง เมื่อดื่มน้ำมะเขือเทศในปริมาณที่เพียงพอ และต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ จะส่งผลให้ผิวเปล่งปลั่ง มีความกระจ่างใส มากกว่าที่จะเป็นการเปลี่ยนสีผิวคล้ำเป็นผิวขาว
สารอาหารในน้ำมะเขือเทศมีสรรพคุณโดดเด่นด้านใด
มะเขือเทศ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว อวัยวะส่วนต่าง ๆ และยังช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ได้ โดยสารประโยชน์ในมะเขือเทศมีดังนี้
ไลโคปีน สารไลโคปีนในมะเขือเทศมีส่วนช่วยปกป้องคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน มีความชุ่มชื้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวถูกเผาไหม้จากแสงแดด ดังนั้น น้ำมะเขือเทศจึงมีส่วนในการช่วยลดความหมองคล้ำให้กับผิว ส่งผลให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง
เบต้าแคโรทีน เมื่อเราดื่มน้ำมะเขือเทศ หรือกินมะเขือเทศ ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนในมะเขือเทศเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวแข็งแรง และกระชับรูขุมขน
นารินจีนิน ในมะเขือเทศช่วยลดการอักเสบของเซลล์ผิว ซ่อมแซมความเสื่อมสภาพของผิวจากมลภาวะและแสงแดด
สารต้านอนุมูลอิสระ มะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย ชะลอความแก่
วิตามินเอ มะเขือเทศมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา และดูแลปัญหาสายตาอื่น ๆ ตาพร่า ตาแพ้แสง ฯลฯ
วิตามินซี มะเขือเทศมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน และป้องกันร่างกายจากโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด ภูมิแพ้ เป็นต้น
วิตามินเค มะเขือเทศและน้ำมะเขือเทศมีวิตามินเคสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันกระดูกบาง โรคกระดูกพรุน ลดความเครียดได้ดี ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงและบำรุงผมเงางาม
น้ำและไฟเบอร์ มะเขือเทศมีใยอาหารสูง และมีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก ดีต่อระบบลำไส้และการขับถ่าย ระบบการขับถ่ายดีจะช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลและไขมันเลวที่เกาะตามผนังหลอดเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการบวมของร่างกาย และลดสิว ช่วยให้ผิวใสแลดูมีสุขภาพดี
ดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
วิธีดื่มน้ำมะเขือเทศที่ถูกต้องจะทำให้ได้ผลดีที่สุด และไม่เกิดโทษตามมาแม้จะดื่มต่อเนื่องนาน ๆ โดยการดื่มน้ำมะเขือเทศนั้นควรกำหนดเวลาเพื่อให้ร่างกายได้นำไปใข้งานได้ดีที่สุด โดยสามารถแบ่งได้ 2 ช่วง
เวลา ได้แก่
ดื่มน้ำมะเขือเทศตอนท้องว่าง หรือดื่มก่อนรับประทานอาหาร อาจจะหยดน้ำมันลงบนมะเขือเทศเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดี
ดื่มน้ำมะเขือเทศหลังมื้ออาหารทันที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมไลโคปีนเข้าสู่ร่างกายได้ดีมากขึ้น
ดื่มน้ำมะเขือเทศในปริมาณเท่าไรจึงดีต่อสุขภาพ
หากดื่มน้ำมะเขือเทศมากเกินไป จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเกินที่ร่างกายต้องการ ส่งผลต่อนิ่วได้ และการได้รับวิตามินเอมากเกินไป จะทำให้มีอาการเบื่ออาหาร เจ็บกระดูก ท้องผูก และรบกวนสุขภาพการนอนหลับได้ รวมไปถึงสารอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีในมะเขือเทศ อาจส่งผลต่อระบบร่างกายส่วนอื่นได้เช่นกัน ดังนั้น ปริมาณที่พอเหมาะ คือ ควรดื่มน้ำมะเขือเทศไม่เกิน 2 กล่อง (เล็ก) หรือ 2 แก้ว / วัน เพราะเป็นปริมาณที่ร่างกายสามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้หมด
ใครที่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะเขือเทศ
เนื่องจากมะเขือเทศมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไต หรือผู้ที่มีภาวะไตเสื่อม และผู้ที่มีโทแทสเซียมในเลือดสูง ไม่ควรทานหรือเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยมะเขือเทศ รวมถึงการดื่มน้ำมะเขือเทศ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศสดหรือแปรรูป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดื่มน้ำมะเขือเทศจะมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ แต่ก็ต้องดื่มอย่างระมัดระวัง ดื่มให้พอเพียงที่ร่างกายต้องการเท่านั้น เพราะไม่ว่าอะไรที่มากเกินไปย่อมเกิดโทษได้เช่นกัน นอกจากนี้ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามโภชนาการ ออกกำลังกายเหมาะสมกับสภาพร่ากาย และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ
