หลายๆคนอาจยังเคยชินกับการตื่นสาย แบบชีวิตสโลว์ไลฟ์ ไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อไปแออัดบนท้องถนนอันเนื่องมาจากสภาพจราจรของประเทศไทย แต่เมื่อสถานการณ์โรคระบาดเริ่มเหมือนจะมีแนวโน้มว่าดีขึ้น มีการผ่อนปรนมาตรการณ์ล็อกดาวน์ ชีวิตการตื่นเช้าของคนทำงานและนักเรียนนักศึกษากลับมาตื่นเช้าเหมือนเดิม 

สำหรับคนวัยทำงาน แม้ว่าอาจจะชินกับการไม่ต้องรีบตื่นช่วง wfh แต่เมื่อต้องกลับมาตื่นเช้าทุกวัน ปรับตัวนิดหน่อยก็กลับมาตื่นเร็วได้ (แม้จะอยากนอน) แต่เชื่อว่าก็ยังมีบางคนที่ตอนเช้าไม่อยากตื่น หรือไม่สดชื่นตอนเช้า เพราะร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ โดยเฉพาะเด็กๆวัยเรียน ผู้ปกครองต้องปวดหัวและพลอยจะไปทำงานสาย เพราะมัวแต่ปลุก และพยายามแซะคุณลูกให้แยกร่างออกจากที่นอนให้ได้ อย่าว่าแต่น้องๆหนูๆเลย คนโตๆหลายๆคนก็เป็น 

แม้ว่าการนอนจะเป็นการพักผ่อนที่ดี แต่รู้หรือไม่ว่าข้อดีการตื่นเช้ามีมากกว่าที่คิดเลยทีเดียว ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันว่าตื่นเช้าดีอย่างไร และอาจจะทำให้คุณอยากตื่นเช้าทุกวัน แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม

 

ประโยชน์ของการตื่นเช้า 

(1.)ตื่นเช้าสดชื่น อารมณ์ดี ไม่ง่วงหรืออ่อนเพลียระหว่างวัน แต่นั่นต้องเป็นการเข้านอนเร็วด้วยนะ เพราะระยะเวลาพักผ่อนที่ดีต่อสุขภาพคือ 7-8 ชั่วโมง หากคุณเข้านอนเร็วและตื่นเช้ามาก็สดชื่น เพราะได้หลับเต็มที่ ต่างกับคนที่เข้านอนดึกแล้วต้องตื่นเช้า ร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อย ส่งผลให้ตื่นเช้าไม่ได้ เพราะตื่นเช้ามาเวียนหัวไม่สดชื่น หรือรู้สึกง่วงและอยากนอนระหว่างวัน สมองตัน คิดงานไม่ออก เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และถ้าสะสมเป็นเวลานานๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพได้ ดังนั้นหากต้องการตื่นเช้าให้สดชื่น ก็ต้องฝึกนิสัยเข้านอนให้เร็วขึ้น หรือนอนไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย 

(2.)สมองปลอดโปร่ง เพราะอากาศยามเช้าจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่ เมื่อตื่นเช้ามาสมองปลอดโปร่ง พร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันได้ดีกว่าคนตื่นสาย หรือคนพักผ่อนไม่เพียงพอที่ตื่นเช้ามาไม่มีแรง       

(3.)มีเวลามากขึ้น ในหนึ่งวันมีเวลา 24 ชั่วโมง เท่ากันทุกวัน แต่สำหรับคนตื่นเช้าจะมีเวลาในการทำกิจวัตรในชีวิตเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้านับเวลานอนที่ดีต่อสุขภาพ ก็ประมาณ 12 ชั่วโมง คนตื่นเช้าก็จะมีเวลาสำหรับกิจกรรมต่างๆอีก 12 ชั่วโมง ดั่งสุภาษิตที่ว่า “นกที่ตื่นเช้า ย่อมจับหนอนได้ก่อน” ซึ่งอาจเป็นเวลาทำงาน 9 ชั่วโมง ก็มีเวลาที่เหลือสำหรับงานอดิเรก ออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส พบปะมิตรสหาย เข้าคลาสเพิ่มสกิล หรือแม้แต่การอ่านหนังสือเล่มโปรด และการพักผ่อนอื่นๆ 

(4.)มีทัศนคติที่ดี ได้มีการทดลองและผลงานวิจัยออกมาว่า คนที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มและตื่นเช้า ประสิทธิภาพการทำงานและประมวลผลต่างๆของสมองจะทำได้ดี ส่งผลต่อการตัดสินใจ และเสริมให้มีทัศนคติเชิงบวก จึงทำให้แก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด และมีความสุขุมรอบคอบมากกว่าคนตื่นสาย หรือได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ตามที่ร่างกายต้องการ 

 

(5.)ได้ทานอาหารเช้า เพราะเมื่อตื่นเช้าเกินไปกว่าเวลาที่เคย ทำให้มีเวลาที่จะทานอาหารเช้าโดยไม่ต้องเร่งรีบ สารอาหารที่ได้รับมื้อเช้าจะทำให้สมอง และระบบต่างๆในร่างกาย มีประสิทธิภาพ และพร้อมที่จะรับมือในทุกกิจกรรมของวัน แต่ถ้าตื่นสาย จะต้องรีบเร่งทุกอย่างเพื่อไปให้ทันเวลางาน จนไม่เหลือเวลาในการทานข้าวเช้า และถ้าอดมื้อเช้าเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด

(6.)ลดเสี่ยงโรคซึมเศร้า เพราะจากข้อต่างๆที่เราได้กล่าวมาแล้วนั้น ไม่ว่าจะได้รับออกซิเจนเต็มที่ การได้ทานมื้อเช้า การได้นอนเต็มอิ่ม ทำให้รู้สึกสมองปลอดโปร่ง สดชื่น อารมณ์ดี ไม่ต้องกลัวไปทำงานสาย ไม่เครียด ไม่กังวล สุขภาพจิตสมบูรณ์ และสุขภาพกายแข็งแรง ก็จะห่างไกลจากโรคเครียด ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า 

(7.)หลับง่ายขึ้น เพราะการตื่นเช้าขึ้น ก็เพิ่มเวลาในการทำกิจกรรมได้มากขึ้น activities อย่างยาวนานตลอดวัน ก็ย่อมทำให้เสียพลังงานระหว่างวันไปด้วย กลไกของร่างกายจึงมีการจัดระบบเวลาชีวิตอัตโนมัติ เพื่อให้นอนได้อย่างเต็มอิ่ม และมีประสิทธิภาพในการเริ่มกิจกรรมวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ 

(8.)น้ำหนักลด เพราะการได้ทานมื้อเช้า จะทำให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานตามปกติ ทำให้ไม่หิวก่อนเวลา ไม่ต้องทานจุกจิก หรือทานมากเกินไป เนื่องจากความหิว เพราะร่างกายไม่ได้รับสารอาหารเป็นเวลานานหลังจากตื่นนอน และการอดอาหารเช้าจะส่งผลให้เกิดภาวะอ้วนได้ นั่นเป็นเพราะ ร่างกายจะดึงพลังงานที่สะสมไว้ในตับ ที่เป็นแหล่งอาหารสำรองมาใช้จนหมด จะส่งผลให้กลไกการทำงานของระบบการเผาผลาญรวนได้ เป็นสาเหตุให้มีการสะสมไขมันในร่างกายมากเกินไป จนอ้วนนั่นเอง 

(9.)รถไม่ติด ข้อดีอีกข้อสำหรับการตื่นเช้าคือ รถไม่ติด หรืออย่างน้อยก็ใช้เวลาบนท้องถนนน้อยลงอีกหน่อย ทำให้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องวิตกกังวล กลัวไปสาย แต่ไปถึงที่ทำงานหรือสถานศึกษา โดยที่ยังมีเวลาเหลือพอให้ได้เตรียมบทเรียน หรือเตรียมเอกสาร เตรียมตัวทำงานได้อย่างไม่สะดุดได้อย่างตลอดวัน 

จาก 9 ข้อดีของการตื่นเช้าเป็นอย่างไรกันบ้าง น่าจะช่วยกระตุ้นให้อยากตื่นเช้าแบบสดชื่นกันมากขึ้น และถ้าไม่อยากตื่นเช้าอ่อนเพลีย หรือไปนั่งหาวนั่งง่วงระหว่างวัน ก็ต้องฝึกให้เข้านอนเร็วขึ้นด้วย เพื่อที่จะได้นอนได้เต็มอิ่มกับระยะเวลาที่ร่างกายต้องการ ตื่นมาแล้วเฟรซ สมองโล่ง หน้าใส ใครล่ะจะไม่ชอบ จริงไหมเอ่ย…