เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!  อุ๊ย! เสียงอะไรแตกๆ ก้มลงมองมือและแขน ก็เห็นรอยขาวๆ ที่ฟ้องความแห้งของผิว พอส่องกระจก ก็เห็นชัดถึงความขาวเช่นกัน ไม่ใช่ใบหน้าขาวกระจ่างใส แต่เป็นรอยขุยขาวผิวแห้งแตกต่างหาก แน่นอน เมื่อลมหนาวโชยมา ความแห้งของสภาพภูมิอากาศ ก็พัดพาความชุ่มชื้นของผิวไปด้วย ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับในการปกป้องและดูแลผิวในหน้าหนาว ให้คงความชุ่มชื้น ไม่แห้งแตกขุย มาฝากในบทความนี้ เริ่มกันเลยดีกว่า …  

1. เลี่ยงอาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน 

หลายๆคนที่ชอบอาบน้ำอุ่น เพราะมันสบายตัว และยังทำให้เลือดไหลเวียนดี แต่รู่ไหมว่า น้ำมันบนผิวก็จะถูกขจัดไปด้วย ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งแตก และเป็นขุยขาว ดังนั้น แม้จะหนาวจนสั่นแค่ไหน ก็ฝืนใจสักหน่อยกับการอาบน้ำอุณหภูมิปกติ ถ้ามันสุดกลั้นจริงๆ ก็นำน้ำพรมๆ ลูบๆตรงจุดที่มันควรจะล้างและทำความสะอาด เพื่อขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์สักหน่อยดีกว่า หรือจะรองน้ำอุ่นใส่กะละมังไว้สักครู่แค่พอให้น้ำหายอุ่น แล้วอาบน้ำโดยที่น้ำไม่ทันเย็นเกินไป ก็ช่วยได้เยอะเลย ยอมเสียเวลาสักหน่อย เพื่อปกป้องความชุ่มชื้นให้ผิวสวยของเรา

 

2. เลือกสบู่ให้เหมาะ

สบู่ที่เราใช้ๆกันอยู่มีหลายประเภท ทั้งสบู่ก้อน สบู่เหลว สบู่กลีเซอรีน และยังมีสบู่ให้เลือกใช้ เพื่อให้เหมาะกับผิวหรือกิจกรรมประจำวัน เช่น สบู่สำหรับผิวแห้ง สบู่สำหรับกำจัดกลิ่นกาย เป็นต้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเลือกซื้อสบู่ตามความชอบของกลิ่นบ้าง หรือตามคุณสมบัติของสบู่ที่แจ้งไว้บนแพ็กเก็จบ้าง แต่เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวในหน้าหนาว ช่วงนี้ควรตัดใจจากสบู่ที่อาจทำให้ผิวเราแห้งยิ่งขึ้นอย่างสบู่ก้อน หากคุณเป็นคนชอบใช้สบู่ก้อน หรือจำเป็นต้องใช้สบู่ก้อนตามเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกในบ้าน ก็ให้เลือกใช้เป็นสบู่เจล สบู่เหลวชนิดอ่อน หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ไปก่อนในช่วงอากาศหนาว

 

3.อาบน้ำเพียง 5-10 นาที ก็เพียงพอ

หากคุณเป็นคนใช้เวลาในการอาบน้ำนาน ก็ลดเวลาลง อย่าให้เกิน 10 นาที เพราะช่วงอากาศหนาวจะมีสภาพอากาศแห้ง เมื่ออาบน้ำก็จะทำให้น้ำมันบนผิวถูกชะล้างไปด้วย และยิ่งอาบน้ำนาน ผิวก็จะยิ่งแห้ง แม้จะอาบน้ำอุณหภูมิปกติก็ตาม 

4.ลดการสครับผิวชั่วคราว 

ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นสาวรักการสครับผิวมากแค่ไหน แต่ช่วงอากาศแห้งๆในฤดูหนาว ก็ต้อง…พักก่อน เพราะการสครับ จะยิ่งเป็นการไปทำร้ายผิว และขจัดน้ำมันธรรมชาติในช่วงที่ผิวต้องการความชุ่มชื้นมากที่สุด แม้แต่การขัดถูผิวแรงๆ ในขณะอาบน้ำ ก็ควรงดเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ชั้นผิวถูกรบกวน จนลอกแตกและอาจเกิดรอยแดงจนแสบผิวได้ 

5.ทาครีมบำรุงหลังการอาบน้ำภายใน 3-5 นาที 

เพราะหลังจากอาบน้ำในช่วง 5 นาทีนี้เป็นนาทีทอง เพราะผิวยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่ เมื่อเช็ดตัวแล้วรีบชะโลมครีมบำรุงลงผิวทันที และเลือกใช้เป็นเนื้อครีม เพราะจะมีความเข้มข้นกว่าเนื้อโลชั่น เลือกครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก, น้ำมันโจโจบา, เชียบัตเตอร์, ยูเรีย, กรดแลคติก, กรดไฮยาลูโรนิก, กลีเซอรีน หรือ ลาโนลิน เนื่องจากต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวช่วงหน้าหนาวมากกว่าปกติ และถ้าใครที่มีผิวแห้งหนักมาก ขอแนะนำให้ใช้ครีมที่เป็นเนื้อขี้ผึ้งไปเลย เพราะจะมีความเข้มข้นมากกว่าเนื้อครีมและโลชั่น 

 

6.งดใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวและจำพวกไวท์เทนนิ่ง

งดหรือลดในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั้งหลาย ครีมพวกไวท์เทนนิ่ง สารจำพวก AHA หรือแม้แต่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ น้ำหอม และ เรตินอยด์ ไปก่อนช่วงหน้าหนาว เพราะทั้งหมดนี้จะยิ่งทำให้ผิวแห้ง

 

7.ลิปบาล์มและแฮนด์ครีมก็สำคัญ 

เพราะริมฝีปากและมือต้องผจญกับความแห้งของอากาศอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้ผิวบริเวณทั้ง 2 ส่วนนี้แห้งและแตกขุยได้ง่าย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพกลิปบาล์ม หรือวาสลีนทาริมฝีปาก และครีมทามือไว้บำรุงเสมอ และช่วงที่ต้องล้างมือบ่อยๆ ก็รีบเช็ดมือให้แห้ง แล้วทาครีมบำรุงมือทันที เรียกได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นไอเทมที่สาวๆขาดไม่ได้เลย

8.เลือกทานอาหาร..ช่วยบำรุงผิว 

ดูแลผิวจากด้านนอกกันไปแล้ว ยังสามารถดูแลผิวได้จากภายในด้วยการทานอาหารที่มี Omega 3 เพราะมีไขมันดี ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่ไม่มีผลต่อความอ้วน สาวๆจึงไม่ต้องกังวล โดยเน้นการทาน ปลา ถั่ว เนื้อไก่ และผักผลไม้ที่มีวิตามิน A , C , E และ Zinc ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยและสุขภาพดีตลอดหน้าหนาว 

 

9.ดื่มน้ำให้มากขึ้น 

ปกติเราก็ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายของแต่ละคน หรือประมาณ 7-8 แก้ว / วัน แต่ถ้าใครที่ปกติดื่มน้ำน้อยกว่า 8 แก้ว ช่วงอากาศหนาวๆแบบนี้ ต้องขยันดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม อาจไม่ต้องถึงขนาดดื่มน้ำหมดแก้วในคราวเดียว แต่คอยจิบเรื่อยๆ เพื่อให้ผิวไม่ขาดน้ำจะดีกว่า 

 

10.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าด้วยการมาร์กหน้า 

เมื่อบำรุงผิวกายอย่างเต็มที่ ใบหน้าก็ยิ่งต้องดูแลให้มากเข้าไปอีก เติมความชุ่มชื้นผิวหน้าด้วยการมาร์กหน้าด้วยผลิตภัณฑ์มาร์กหน้า หรือมาร์กหน้าด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น มาร์กหน้าด้วยโยเกิร์ต , น้ำผึ้ง , นมสด+น้ำผึ้ง ฯลฯ ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นและนุ่มน่าสัมผัส 

 

11.ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ 

ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ด้วยการใส่เสื้อกันหนาว ใช้ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ ใส่ถุงเท้านอน ฯลฯ เพราะนอกจากจะเป็นการดูแลไม่ให้เจ็บป่วยแล้ว ยังเป็นการปกป้องผิวจากอากาศแห้งและเย็นอีกด้วย 

 

12.เลือกใส่เสื้อผ้าที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง 

อย่างที่รู้กันไปแล้ว ว่าอากาศในหน้านาวมันแห้ง ผิวจะมีความอ่อนไหวและแห้งได้ง่าย หากใส่เสื้อผ้าที่เป็นเนื้อใยสังเคราะห์ หรือเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ อาจเกิดการระคายเคืองผิวได้ จึงควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าใยไผ่ จะดีต่อผิวมากกว่า 

 

13.พักผ่อนให้เพียงพอ

แน่นอน การพักผ่อนเต็มที่ และเพียงพอต่อร่างกาย นอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพแล้ว ยังทำให้หน้าตาสดชื่น แจ่มใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เพราะถ้าสังเกตที่ช่วงไหนคุณนอนไม่เต็มอิ่ม อดนอน เครียด หรือปาร์ตี้หนัก มันจะส่งผลต่อหน้าตาและผิวของคุณได้ชัดมาก เพราะฉะนั้นอยากสวย ก็ต้องนอนให้พอ หรือประมาณ 6-8 ชั่วโมง 

 

ทำเพียงเท่านี้ ความแห้งขุยก็ทำอะไรผิวสวยๆเราไม่ได้ นอกจากนี้ ทานวิตามินเสริมบำรุงผิว อย่างวิตามินซี และจำพวกเกรปฟรุต ดีกว่า ใช้ครีม AHA เป็นการเสริมผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก ขอให้สาวๆมีผิวชุ่มชื้น และสวยใสตลอดหน้าหนาวค่ะ