อุปกรณ์เครื่องนอนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้นอนหลับอย่างสบาย ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นเพราะร่างกายได้พักอย่างเต็มที่ ผ้าปูที่นอนแสนสบายที่ทำให้คุณได้หลับลึกเต็มตื่นเป็นอย่างไรกันบ้าง เชื่อว่าผ้าปูที่นอนในหลายๆบ้านส่วนใหญ่ถ้าไม่เป็นผ้าปูที่นอนสีขาวลายริ้วก็เป็นผ้าปูที่นอนลายเรียบ แต่จะเลือกสีแบบไหนก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
ถึงแม้ว่าผ้าปูที่นอนจะมีหลากหลายแบบให้เลือก แต่ถ้าเราไปพักตามโรงแรมหรือวิลล่าหรูๆ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะมีผ้าปูที่นอนริ้วและผ้าปูที่นอนเรียบใช่ไหมคะ แล้วเคยสงสัยไหมว่าผ้าปูที่นอนสองแบบนี้ต่างกันยังไงและทำไมผ้าปูแบบโรงแรมจึงนิยมเลือกใช้
ผ้าปูที่นอนลายริ้ว
ผ้าปูที่นอนลายริ้วหรือบางคนก็เรียก ผ้าปูที่นอนลายริ้วโรงแรม เพราะให้ความหรูหราเหมือนกำลังนอนอยู่โรงแรม ถักทอแบบ Sateen ทำให้ผ้ามีความขึ้นเงา กระทบแสงแล้วดูสวยหรู เมื่อสัมผัสก็รู้สึกนุ่มลื่น เย็นสบายผิว เป็นผ้าปูที่นอนทอลายริ้วช่วงห่าง โดยส่วนริ้วนี้เองที่มักจะทอด้วยผ้าซาตินบ้าง ผ้าไหมบ้าง ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับผ้าปูที่นอน และช่วยเพิ่มมูลค่าห้องพักได้เป็นอย่างดี เราจึงมักจะเห็นโรงแรมหรูหรือวิลล่าระดับ 5 ดาวขึ้นไปเลือกใช้สำหรับห้องพักในกิจการ แต่ด้วยมีส่วนของผ้าไหมนี่เอง จึงทำให้การซักล้างจะต้องมีความระมัดระวังสูง และมีจำนวนเส้นด้ายตั้งแต่ 250 เส้น 300 เส้นขึ้นไป แต่จะมีให้เลือกน้อยกว่าผ้าปูที่นอนแบบเรียบ และอายุการใช้งานอาจสั้นกว่าหากไม่ระมัดระวังในการใช้งาน
โดยมาตรฐานที่นอนในประเทศไทยจะมีขนาดตั้งแต่ 3.5 ฟุต 5 ฟุต และ 6 ฟุต การเลือกขนาดผ้าปูที่นอนให้ตรงกับขนาดของที่นอนก็สำคัญ เพราะจะทำให้เรียบตึงและดูสวยงาม เช่น ที่นอนขนาด Queen site ก็ควรเลือกใช้ผ้าปูที่นอนลายริ้ว6ฟุต ขนาด Double bed เลือกใช้ผ้าปูที่นอน 5 ฟุต เป็นต้น เมื่อปูผ้าจะได้เรียบตึงพอดีกับขนาดที่นอน ทำให้แลดูสวยงามและนอนสบาย
แม้ว่าผ้าปูที่นอนลายริ้วแบบที่ใช้ในโรงแรมจะใช้เป็นสีขาวเป็นหลัก แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่ผลิตผ้าปูที่นอนลายริ้วสีพื้นอื่นๆออกมาจำหน่ายสำหรับครัวเรือน เพื่อให้ตรงกับความชอบของแต่ละบุคคล และผู้ที่ต้องการจัดให้เข้ากับธีมสีและการตกแต่งห้องนอนตามที่ต้องการ โดยยังคงเน้นสไตล์ความหรูหรา ดูมีราคาแพง ให้รู้สึกเหมือนนอนในโรงแรมยังไงยังงั้น
ผ้าปูที่นอนแบบเรียบ
การปูที่นอนแบบโรงแรมมักจะนิยมใช้ผ้าปูที่นอนสีขาวเรียบ เพราะดูเรียบหรู มีราคาแพง ผ้าปูที่นอนลายเรียบจะมีเนื้อแน่น เนื้อผ้าจะไม่นุ่มลื่นเท่าผ้าปูที่นอนลายริ้ว แต่มีอายุการใช้งานที่คงทน และผ้าปูพื้นเรียบสีขาวล้วนดูสะอาดตา เพราะสีขาวเป็นสีมาตรฐานงานโรงแรม ทำให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักเลือกใช้สีขาวเป็นสีเครื่องนอน อีกทั้งยังมีงานวิจัยว่าผ้าปูที่นอนสีขาวส่งผลให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และสามารถหลับได้อย่างสบาย ที่สำคัญการดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย ใช้เพียงน้ำยาซักผ้าขาว โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการเกิดรอยด่าง สีตก สีซีด หรือรอยขูดเกี่ยวจากเส้นด้ายลวดลาย และไม่ต้องเสียเวลาในการแยกประเภทสีผ้า เพราะเมื่อเป็นสีขาวล้วนทั้งหมดก็สามารถซักรวมด้วยกันได้เลย
ผ้าปูที่นอนแบบเรียบสีขาวนี้มีทั้งที่ใช้วัสดุถักทอจากธรรมชาติ เช่น ผ้าปูที่นอนใยไผ่ ผ้าปูที่นอนใยฝ้าย และทอจากวัสดุผสมระหว่างใยฝ้ายกับใยสังเคราะห์ อย่างผ้าปูที่นอนที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าปูที่นอนทอด้วยผ้าสักหลาด
ผ้าปูที่นอนลายเรียบสีขาวจะเป็นเกณฑ์มาตรฐานของผ้าปูที่นอนโรงแรม แต่สำหรับครัวเรือนสามารถเลือกสีผ้าปูได้มากขึ้น เพราะมีผ้าปูลายเรียบสีพื้นจำหน่ายหลายแบรนด์ด้วยกัน ทั้งในระบบช้อปปิ้งออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า หรือในช็อปของแบรนด์โดยตรง ที่ผลิตออกมาเพื่อให้ยังคงคอนเซ็ปต์ดูเรียบหรูเหมือนผ้าปูที่นอนโรงแรม แต่มีสีให้เลือกหลากหลายขึ้น และมีเรทราคาให้เลือกตามกำลังซื้อ เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
เมื่อรู้ถึงความแตกต่างระหว่างผ้าปูที่นอนทั้งสองชนิดแล้ว และสนใจซื้อผ้าปูที่นอนลายริ้วแบบโรงแรมหรือผ้าปูที่นอนโรงแรมมาใช้ที่บ้านล่ะจะต้องเลือกอย่างไร เรามีวิธีการเลือกซื้อรวมถึงวิธีการซักผ้าปูที่นอนเพื่อถนอมไว้ใช้ได้นานๆมาฝากก่อนจากกันไปค่ะ
วิธีการเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรม
1.ผ้าปูที่นอนโรงแรมสีขาว
คนอาจสงสัยสีขาวไม่สกปรกง่ายหรือ ยิ่งมีคนเข้าพักมากหน้าหลายตา ลูกค้าที่มีมารยาทใช้งานตามสมควรก็มี แต่ลูกค้าที่ใช้งานเช็ดสารพัดจนเลอะเทอะ อาจซักยากเกินไปหรือเปล่า…จริงอยู่ว่าสีขาวเป็นสีที่เลอะและเห็นความสกปรกง่าย แต่ในขณะเดียวกันผ้าปูที่นอนสีขาวก็เป็นสีที่ใช้กับน้ำยาซักผ้าขาวได้สะดวก ไม่ต้องห่วงเรื่องผ้าจะด่างเป็นรอย และสีขาวก็ยังเป็นสีนิยมในการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ เข้าได้แทบทุกสไตล์การแต่งบ้าน แต่งห้อง และยังเข้ากับโทนสีอื่นได้ง่าย ทั้งยังช่วยทำให้ห้องดูสะอาดตา อบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อน
2.จำนวนเส้นด้าย
แม้ว่าจำนวนเส้นด้ายยิ่งสูงก็จะยิ่งทำให้ผ้านิ่ม มีความนุ่ม สัมผัสลื่นสบาย ที่จริงเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะแหล่งผลิตบางแห่งใส่ตัวเลขจำนวนเส้นด้วยเพื่อเป็นเกมการตลาด เป็นตัวเลขที่ไม่จริง หรือจำนวนเส้นด้ายสูงแต่คุณภาพวัสดุต่ำ จึงทำให้ผ้าไม่ได้นิ่มหรือสบายเท่าจำนวนตัวเลขที่ระบุ ดังนั้นการเลือกผ้าปูที่นอนที่ถักทอจำนวนเส้นด้ายประมาณ 300–500 ก็เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน และการซักล้างด้วยเครื่องซักผ้า แต่จะต้องดูให้ดี ไม่ว่าจะต้องการผ้าปูที่นอนลายริ้วราคาถูก หรือผ้าปูที่นอนลายเรียบ ควรเลือกซื้อจากจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือหรือจากโรงงานที่มีมาตรฐานการผลิต
3.ชนิดเนื้อผ้าปูที่นอน
เนื้อผ้าปูที่นอนโรงแรม
- ผ้าปูที่นอนจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ใยไหม ใยไผ่ ใยฝ้าย ซึ่งส่วนมากก็จะนำใยฝ้ายนำไปทำเป็นผ้าคอตตอน ใช้ทอเป็นผ้าปูที่นอนโรงแรม เพราะระบายอากาศได้ดี เนื้อแน่น ไม่ยับง่าย ยิ่งซักยิ่งนุ่ม ทนทานต่อการซักล้างอุตสาหกรรม มีอายุการใช้งานได้นาน
- ผ้าปูที่นอนซาติน ผลิตจากโพลีเอสเทอร์ 100% จะมีความคล้ายกับผ้าแพร ที่มีความนุ่ม ลื่น เย็นสบาย และให้ความหรูหรา โรแมนติก
- ผ้าปูที่นอนผ้าฝ้ายผสมซาติน เป็นการทอระหว่างผ้าฝ้าย 100% สลับด้วยริ้วผ้าซาตินหนาประมาณ 1 นิ้ว เป็นที่นิยมอย่างมากในธุรกิจโรงแรมและกิจการที่พัก เพราะในขณะที่มีความทนทาน ยิ่งซักยิ่งนุ่ม ที่เป็นคุณสมบัติของผ้าฝ้ายแล้ว ยังให้ความหรูหราด้วยริ้วผ้าซาตินอีกด้วย ทำให้ยิ่งดูเรียบหรู และเพิ่มมูลค่าของห้องพักได้เป็นอย่างดี
- ผ้า CVC หรือที่รู้จักกันในชื่อผ้าสักหลาด เป็นผ้าผสมระหว่างใยฝ้ายและโพลีแอสเทอร์ในอ้ตราส่วนที่เท่าๆกัน แม้ว่าเนื้อผ้าจะไม่ค่อยละเอียดนักแต่จะมีความนุ่มและให้ความอบอุ่นได้ดี จึงนิยมนำผ้าชนิดนี้ไปทำเป็นผ้าปูที่นอนเด็กเช่นกัน
วิธีการดูแลทำความสะอาดผ้าปูที่นอน
1.อ่านฉลากตั้งแต่ซื้อมาหรือก่อนนำไปซักทุกครั้ง เพราะผ้าปูที่นอนแต่ละชนิดผลิตด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน คุณสมบัติความทนทานต่อการซักก็ไม่เท่ากัน ผ้าบางชนิดก็สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ แต่บางชนิดก็เหมาะกับการซักมือเท่านั้น
2.แยกซักจากผ้าอื่นๆ หลายๆคนอาจนำไปซักรวมกับผ้าประเภทอื่นหรือชุดเสื้อผ้า เพื่อประหยัดเวลา แต่การซักรวมกัน อาจทำให้เนื้อผ้าปูที่นอนเกิดความเสียหายจากการเกี่ยวของซิป ตะขอ หรือ กระดุม หรือแม้แต่สีเสื้อผ้าอื่นอาจตกใส่ผ้าปูที่นอนได้เช่นกัน ดังนั้นควรแยกประเภทผ้าในการซักทุกครั้ง เพื่อถนอมผ้าปูที่นอนไว้ใช้ได้นานๆ
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างผ้าปูที่นอนลายริ้วและผ้าปูที่นอนลายเรียบ คือผ้าปูที่นอนลายเรียบมีความหนาแน่นของใยผ้า ทนทานต่อการซักล้างอุตสาหกรรมมากกว่า ในขณะที่ผ้าปูที่นอนแบบทอริ้วจะมีความนุ่มเป็นพิเศษ ผ้ามีความเงา ให้ความหรูหรา อัพเลเวลมูลค่าห้องได้มากกว่า แต่ต้องระมัดระวังในการทำความสะอาด อาจไม่เหมาะกับการซักอุตสาหกรรมบางชนิด และความทนทานต่อการใช้งานก็อาจสั้นกว่าผ้าปูที่นอนแบบเรียบ แต่ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอนแบบไหน นอกจากเลือกให้ตรงกับความชอบส่วนบุคคลแล้ว การเลือกผ้าปูที่นอนตามวิธีที่เรานำมาฝาก ก็จะช่วยให้คุณได้ผ้าปูที่นอนที่ทำให้คุณได้นอนเต็มอิ่มทุกครั้ง หลับสบายทุกคืน เพราะสุขภาพการนอนที่ดี ไม่ได้อยู่ที่ได้นอนกี่ชั่วโมง แต่เป็นการได้หลับลึกและนอนสบาย
