หลายคนที่มีปัญหาด้านสายตาแต่ไม่อยากใส่แว่นตา จึงเลือกที่จะใส่คอนแทคเลนส์เพื่อแก้ปัญหาการมองเห็น และช่วยตอบโจทย์ในด้านบุคลิกภาพ ความมั่นใจ รวมไปถึงด้านแฟชั่น เพราะบางคนมีค่าสายตาปกติ แต่เลือกใช้คอนแทคเลนส์ 0.00 คือเลนส์ที่มีลวดลายและสีสันหลากหลาย ใช้สำหรับเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้าซึ่งเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน 

เนื่องจากคอนแทคเลนส์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องใส่เข้าไปในดวงตา จึงมีความเสี่ยงสูงต่ออันตรายที่อาจตามมาได้ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้คอนแทคเลนส์ด้วยเหตุผลใด ควรใส่ใจอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด และการเลือกประเภทคอนแทคเลนส์ให้เหมาะกับการใช้งาน  

คอนแทคเลนส์คืออะไร 

คอนแทคเลนส์คืออะไร

คอนแทคเลนส์ ภาษาอังกฤษ คือ Contact Lens ซึ่งใช้เรียกทับศัพท์ตรงตัว มีความหมายว่า เลนส์สัมผัส ซึ่งคอนแทคเลน์ คือ เลนส์พลาสติกใสเป็นวงกลมคล้ายถ้วย มีขนาดเล็กสำหรับใส่ดวงตา โดยเลนส์จะไปถูกแปะอยู่กระจกตาหรือตาดำ เพื่อแก้ไขค่าสายตาผิดปกติ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้กับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาแต่ไม่ต้องการสวมแว่นตา ได้แก่ สายตาเอียง (Astigmatism) สายตาสั้น (Myopia) สายตายาวตั้งแต่กำเนิด  (Hyperopia) สายตายาวตามวัย (Presbyopia) หรือเพื่อการรักษาโรคตาบางชนิด 

คอนแทคเลนส์แตกต่างจากแว่นตา คือ เลนส์แว่นตามีขนาดใหญ่กว่าและอยู่ห่างจากลูกตา ต่างกับคอนแทคเลนส์ ที่สามารถสวมใส่เข้าไปในดวงตาได้เลย โดยเลนส์จะถูกแปะอยู่ที่กระจกตาหรือตาดำ ทำให้วิสัยทัศน์ของการมองเห็นเป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่มีขอบเขตของการมองภาพ ทำให้สะดวก เสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพได้มากกว่าการสวมแว่นสายตาทั่วไป 

คอนแทคเลนส์มีกี่แบบ

คอนแทคเลนส์มีกี่แบบ

ประเภทคอนแทคเลนส์สามารถแบ่งออกได้ตามชนิดของเลนส์ ดังนี้ 

  1. คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft contact lens) 

คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม คือ วัสดุคอนแทคเลนส์เป็นพลาสติกใสที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้มีความนิ่ม ไม่บาดผิวดวงตา อุ้มน้ำได้มาก ใส่แล้วสบายตากว่าเลนส์บางชนิด เลนส์มีขนาดใหญ่กว่าตาดำ หาซื้อง่าย มีทั้งคอนแทคเลนส์รายวัน คอนแทคเลนส์รายเดือน และคอนแทคเลนส์ราย 2 สัปดาห์ โดยเลนส์แบบนิ่มนี้ มี 2 ชนิดด้วยกัน คือ 

  • Hydrogel คือ คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มที่มีค่าความอมน้ำสูง (hight water content lens) ตัวเลนส์จึงมีความนิ่มมาก แต่ออกซิเจนซึมผ่านเข้าได้น้อย จึงไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ชนิด hydrogel เกิน 8 ชั่วโมง / วัน เพราะจะทำให้ตาแห้งมากและตาแดงได้ 
  • Silicone Hydrogel คือ คอนแทคเลนส์นิ่มมีค่าความอมน้ำต่ำกว่าชนิด hydrogel แต่ออกซิเจนสามารถผ่านตัวคอนแทคเลนส์ได้ดีกว่า ทำให้ดีต่อสุขภาพดวงตา ใส่ได้นานกว่า แต่ไม่ควรใส่เกิน 12 ชั่วโมง / วัน 
  1. คอนแทคเลนส์ชนิดกึ่งแข็ง (RGP lens , Scleral lens) 

คอนแทคเลนส์ชนิดนี้จะมีทั้งขนาดที่เล็กกว่าและขนาดใหญ่กว่าตาดำ เมื่อใส่คอนแทคเลนส์ชนิดเล็กกว่าตาดำในครั้งแรกจะรู้สึกเคืองตาเล็กน้อย แต่มีข้อดีคือป้องกันตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์ได้ และได้ความคมชัดในการมองมากกว่าเลนส์ชนิดอื่น รวมไปถึงแว่นสายตา 

  1. ไฮบริดเลนส์ (Hybrid lens)

คอนแทคเลนส์ที่รวมข้อดีของเลนส์แบบนิ่มและเลนส์แบบแข็งมาไว้ด้วยกัน โดยขอบคอนแทคเลนส์จะเป็นชนิดนิ่ม ในขณะที่ตรงกลางเลนส์จะเป็นชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม  

เมื่อไรที่ควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์ 

เมื่อไรที่ควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์

เมื่อใส่คอนแทคเลนส์แล้วมีอาการดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนอันตราย ควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์และปรึกษาจักษุแพทย์ร่วมด้วย

  • แสบตา น้ำตาไหลตลอดเวลา 
  • ตาแห้งผิดปกติ ใช้น้ำตาเทียมหรือยาหยอดตาแล้วแต่ไม่ดีขึ้น
  • ตาแดง เคืองตา 
  • ขี้ตาเหนียว
  • มีเศษโปรตีนเกาะที่ตา (อาจเกิดจากการอักเสบที่กระจกตา เยื่อบุตาอักเสบ หรือมีตุ่มอักเสบที่เปลือกตาด้านใน) 
  • มีจุดเล็ก ๆ ที่ตาดำ (เยื่อบุผิวกระจกตาอักเสบ หรือเยื่อตาช้ำจากคอนแทคเลนส์ หรือน้ำยาล้างเลนส์ไม่ได้มาตรฐาน) 

นอกจากนี้ อาจมีความผิดปกติภายในดวงตาที่มีสาเหตุมาจากคอนแทคเลนส์ในลักษณะอื่น ๆ จึงต้องหมั่นสังเกตอยู่เสมอ ต้องใส่ใจในความสะอาด ล้างมือก่อนหยิบคอนแทคเลนส์สวมใส่-ถอดออก ทุกครั้ง เลือกคอนแทคเลนส์ให้ตรงกับค่าสายตา เลือกชนิดคอนแทคเลนส์ใส่ให้เหมาะสมกับดวงตา สวมใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่ระคายเคือง หากใส่คอนแทคเลนส์แล้วรู้สึกแสบตา ไม่สบายตา มีน้ำตาไหล ให้รีบถอดออกทันที ซึ่งอาจเกิดจากความไม่สะอาด ใส่เลนส์ผิดด้าน หรือชนิดของคอนแทคเลนส์ไม่เหมาะสมกับลูกตา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความใส่ใจ และพบจักษุแพทย์เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา เพื่อจะได้ทำการวิจนิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกวิธี ช่วยถนอมดวงตาไว้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น