ใครที่มักจะช่วยคนอื่นจนลืมนีกถึงตนเองบ้าง?
การเป็นคนใจดี มีเมตตา เป็นเรื่องดี เป็นสิ่งที่ มนุษย์ ควรมี แต่ความใจดี ก็สามารถกลายเป็นดาบสองคม ที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้เช่นกัน เพราะบ่อยครั้งที่คนอื่นมักจะตักตวงผลประโยชน์จากความใจดีของเรา โดยไม่ได้คำนึงหรือสนใจความรู้สึกของเราเลย
เราขออนุญาตยืมประโยคเตือนใจจากเพจ พระนพดล สิริวํโส ที่ว่า
“บางครั้ง ช่วยคนอื่นจนตัวเองไม่ไหว ก็ควรหยุด แล้วหันมาดูแลตัวเองดีกว่า เพราะเวลาเราเดือดร้อน คนอื่นไม่ได้มาเดือดร้อนด้วย”
การเป็นคนใจดีมากเกินไป คือ การที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นในทุก ๆ เรื่อง จนอาจส่งผลเสียต่อตนเอง และกลายเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายตนเอง จนเราต้องเดือดร้อนเอง ดั่งคำที่ว่า เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด หรือมานั่งทุกข์ใจ เสียใจเอง โดยฝ่ายที่เราให้ความช่วยเหลือไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร ไม่ได้มาเห็นใจ หรือไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่าเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ใครที่รู้ว่าตนเองมักจะใจดีกับคนอื่นอยู่เสมอ หรือไม่มั่นแน่ใจว่าสิ่งที่ตนเป็นอยู่นั้น เรียกว่า ใจดีมากเกินนไปหรือเปล่า ลองอ่านสิ่งที่เราได้นำมาเสนอต่อไปนี้ อาจช่วยสะกิดและเตือนให้คุณได้ลองทบทวนกับตัวเอง
- คนใจดีมักจะแคร์ผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอะไร พูดอะไร ก็มักจะใส่ใจและเก็บมาคิดตลอดเวลา จนลืมนึกถึงความรู้สึกของตนเอง
- คนใจดีมักจะช่วยเหลือคนอื่นจนเป็นนิสัยไปแล้ว เมื่อไรที่ไม่ได้ช่วย หรือช่วยได้ไม่เต็มที่ จะรู้สึกไม่ไม่ดีกับตัวเอง เพราะยังคิดว่าช่วยเขาได้ไม่ดีพอ เป็นห่วงความรู้สึกของฝ่ายนั้น จนไม่ได้นึกถึงความเดือดร้อนของตนเองที่จะตามมาในอนาคต
- มักจะมีเรื่องเดือดร้อนหรือทุกข์ใจ จากการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทันทีโดยไม่ได้คิดก่อนตัดสินใจ ทำให้บ่อยครั้งที่ต้องตกที่นั่งลำบากเพราะความใจดีของตนเอง และย้อนกลับมาทำร้ายตนและอาจรวมไปถึงคนใกล้ชิดให้เดือดร้อนไปด้วย
- หลายครั้งที่มักจะต้องเหนื่อยกับปัญหาของผู้อื่น โดยที่เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ต้น ไม่ใช่ปัญหาของตนเอง แต่ด้วยความใจดีอันเป็นนิสัย จึงให้การช่วยเหลืออยู่เสมอ จนทำให้ต้องเหนื่อยทั้งกาย และเหนื่อยทั้งใจ
- หลายครั้ง ที่ความใจดี ทำให้เกิดความอึดอัดใจ น้ำท่วมปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะไม่สามารถปฏิเสธให้การช่วยเหลือได้
- ตราบใดที่เราไม่ปฏิเสธในการให้ความช่วยเหลือ หรือเป็นคนที่ปฏิเสธไม่เป็น ก็จะเป็น “คนใจดี” แต่เมื่อเราปฏิเสธเพียงแค่ 1 ครั้ง จากคนใจดี จะกลายเป็น “คนไม่ดี” ไปเลย
- คนที่ใจดีมักแคร์ความรู้สึกคนอื่น จนยอมอึดอัดใจเอง เพียงเพราะต้องการรักษาน้ำใจอีกฝ่าย ไม่ยอมพูดหรือทำในสิ่งที่ตนคิด เพราะไม่ต้องการให้ไปกระทบกระเทือนใจอีกฝ่ายจนรู้สึกไม่ดี (เรียกได้ว่า ในใจมีหมื่นล้านคำ แต่เก็บไว้จุกอกเพียงคนเดียว)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนเราจะต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ จึงต้องเรียนรู้การใช้ชีวิต และดำเนินกิจวัตรประจำวันไปในแต่ละวันให้ได้อย่างราบรื่น ความใจดี นับว่าเป็นข้อดีและเป็นสิ่งจำเป็นที่เราควรมีกันทุกคน เพื่อเป็นสิ่งหล่อหลอมการอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข แต่การเป็นคนใจดีก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป หากตราบใดที่เป็นคนใจดีเกินไป จนลืมไปว่าควรใจดีกับตัวเองด้วยเช่นกัน ย่อมจะส่งผลเสียต่อตนเองได้ ทางที่ดี ควรเลือกที่จะใจดีกับคนที่ควรได้รับ ใจดีกับคนที่รู้คุณค่าในความใจดีของคุณ พระพุทธเจ้ายังทรงคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการฟังธรรมจากพระองค์ ดังนั้นเราเองก็ควรให้ความช่วยเหลือคนอื่นตามที่เห็นว่าสมควร และให้การช่วยเหลือตามกำลังสามารถของเรา เพราะเราไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนในโลกนี้ได้ หากรู้สึกไม่ดีที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ให้ลองสวดมนต์ หรือเจริญสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบจากการปล่อยวาง